RSA และ RCG ใบอนุญาตในการทำงานในร้านอาหาร โรงแรม คลับ บาร์ คาสิโน ที่ออสเตรเลีย

ทำความรู้จักกับ RSA และ RCG ใบอนุญาตในการทำงานในร้านอาหาร โรงแรม คลับ บาร์ คาสิโน ที่ออสเตรเลีย  ใบอนุญาตนี้สำคัญพอๆกับใบอนุญาตขับขี่เลยนะคะ RSA ย่อมาจาก Responsible Service of Alcohol เป็นใบอนุญาตสำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างถูกกฎหมาย ในแต่ละรัฐจะมีข้อกำหนดแตกต่างกันไป หากทำใบอนุญาตที่รัฐไหนจะสามารถทำงานได้เฉพาะรัฐนั้นเท่านั้นค่ะ ไม่สามารถใช้ทำงานข้ามรัฐได้ RCG ย่อมาจาก Responsible Conduct of Gambling เป็นใบอนุญาตสำหรับผู้ที่ทำงานกับตู้เกมพนัน ในออสเตรเลียการพนันเป็นสิ่งถูกกฎหมายค่ะ จะเห็นตู้พนันได้ตามคลับ ตามบาร์ทั่วไปเลยค่ะ ต้องการทำงานในสายนี้ จำเป็นจะต้องมีความรู้และมีความรับผิดชอบในการให้บริการแอลกอฮอล์ เช่น การไม่เสิร์ฟให้กับผู้ที่กำลังเมา การไม่เสิร์ฟให้กับผู้ที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ เพื่อลดอุบัติเหตุและปัญหาสุขภาพ สำหรับบริการเกมพนัน พนักงานต้องสามารถให้คำแนะนำ ตอบคำถามการเล่นเครื่องเล่นเกมได้ เพื่อป้องกันการเล่นผิดวิธี หากน้องๆต้องการทำงานเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะต้องมีใบ RSA อย่างเดียวก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องมี RCG แต่ถ้าน้องๆต้องการทำงานบริการตู้พนัน คาสิโน นจำเป็นต้องมีทั้ง RCG และ RSA เลยค่ะ ฉะนั้นสิ่งที่ควรต้องมีเลยคือ

Read More »
myVEVO

How To เช็คสถานะวีซ่าออสเตรเลีย

ลืมวันหมดอายุวีซ่า ไม่รู้เงื่อนไขวีซ่าของตัวเองทำไงดี?  นี่เลย myVEVO แอปพลิเคชันตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขวีซ่าออสเตรเลียที่เราถืออยู่ หมดปัญหาเมื่อเราทำเอกสารวีซ่าหาย วีซ่าหมดอายุโดยไม่รู้ตัว หรือไม่เข้าใจเงื่อนไขวีซ่าของตนเอง ซึ่งอาจจะทำให้เราทำผิดกฎหมายโดยไม่ตั้งใจ วีซ่าของประเทศออสเตรเลียเป็นรูปแบบ e-visa ที่เชื่อมโยงระบบดิจิตัลกับพาสปอร์ตของผู้สมัคร ดังนั้นผู้สมัครจะไม่ได้รับตราประทับอนุมัติวีซ่าในหน้าพาสปอร์ต ผู้สมัครจะต้องตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขวีซ่าทางออนไลน์ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน myVEVO สามารถดาวน์โหลดได้ที่ AppStrore https://apps.apple.com/au/app/myvevo/id988252820 PlayStore https://play.google.com/store/apps/details… หรือค้นหา myVEVO เข้าแอปพลิเคชันแล้ว ก็ใส่ข้อมูล 3 ข้อ คือ 1 หมายเลขรหัสวีซ่า Visa Grant Number 2 วันเดือนปีเกิด Date of Birth 3 รายละเอียดพาสปอร์ต เช่น เลขที่หนังสือเดินทาง Passport Details ระบบจะแสดงรายละเอียดวีซ่าของเรา ทั้ง ประเภทขอวีซ่า (Subclass), วันที่ได้รับวีซ่า, วันที่หมดอายุของวีซ่า, เงื่อนไขการเข้าออกประเทศ, ระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย และเงื่อนไขอื่นๆ สามารถพิมพ์ออกมาใช้ประกอบเอกสารอื่นๆได้ด้วยนะคะ เข้ามาตรวจสอบในแอป myVEVO

Read More »

อัพเดทสถานการณ์วีซ่าประเทศออสเตรเลีย

อัพเดทสถานการณ์วีซ่าประเทศออสเตรเลีย ส่งท้ายปี 2022 + คำแนะนำในการเตรียมตัวในการยื่นวีซ่าปี 2023 ปีนี้ทั้งปี ต้องบอกเลยว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่หลายคนให้ความสนใจมากเป็นพิเศษที่อยากเดินทางมา ทั้งท่องเที่ยว  และมาเรียน/ทำงาน ซึ่งในช่วงปลายปี 2021 ที่ประเทศใกล้จะเปิด จนถึงต้นปีประมาณเดือนมีนาคม 2022 วีซ่าประเทศออสเตรเลียผ่านง่ายมาก โดยเฉพาะวีซ่านร. แต่พอเริ่มเข้าเดือนเมษาปีนี้ อัตราวีซ่าไม่ผ่านเริ่มสูงขึ้น การพิจารณาเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเหตุผลหลักๆที่วีซ่าไม่ผ่านก็มีอยู่ 3 เหตุผลหลักเลยนะคะ นั่นก็คือ 1. สถานทูตไม่เชื่อว่าผู้สมัครจะมาเรียนจริง และมาแล้วจะไม่กลับประเทศเมื่อเรียนจบ 2. หลักสูตรที่ผู้สมัครเลือกมาเรียน ไม่สมเหตุสมผลกับประวัติ และหลักสูตรนี้ไม่สร้างมูลค่าอะไรให้กับตัวผู้สมัคร ทำให้สถานทูตไม่เชื่อว่าผู้สมัครตั้งใจจะมาเรียนจริง 3. ความมั่นคงทางการเงินของผู้สมัครที่ประเทศไทย ดูแล้วไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพที่ออสเตรเลีย สถานทูตมองว่าผู้สมัครจะเข้ามา take opportunity ด้านอื่นๆในประเทศออสเตรเลียมากกกว่าจะมาเรียนจริง ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลหลักๆนะคะที่หลายๆคนโดนปฏิเสธวีซ่า และทีนี้เราควรต้องทำยังไงกันบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้เรามีโอกาสวีซ่าผ่านสูงที่สุด ก่อนอื่นเลย ก่อนจะเริ่มทำเรื่องสมัครเรียนและวีซ่า เราต้องสำรวจตัวเองก่อนนะคะ ว่าประวัติของเราเป็นยังไง เรียนจบอะไรมา ทำงานอะไรปัจจุบัน ซึ่งเราก็ควรเลือกคอร์สเรียนให้เหมาะสมกับประวัติของเรา ซึ่งคอร์สยอดฮิตที่นักเรียนไทยมักเลือกที่จะมาเรียนเลยก็คือ คอร์สภาษาอังกฤษระยะเวลา 6 เดือน – 1

Read More »

เปลี่ยนวีซ่าท่องเที่ยว เป็นวีซ่านักเรียน

เนื่องจากหลายคนยังไม่แน่ใจว่าจะมาเรียนและมาอยู่ในออสยาวๆได้มั้ย จึงขอวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาในออส เพื่ออยากจะมาดูสภาพแวดล้อมก่อน ว่าจะอยู่ได้จริงมั้ย จะชอบออสเตรเลียรึเปล่า พอมาถึงแล้วถ้าชอบที่นี่ ก็ไม่อยากจะบินกลับไทย อยากเปลี่ยนวีซ่าในออสเตรเลียเลย เพราะประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทางไปมาได้มากกว่า 🔺คำถามคือ มาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวแล้ว จะสามารถยื่นเปลี่ยนวีซ่านักเรียนในออสเตรเลียได้มั้ย? คำตอบคือได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องเดินทางกลับไทย ยื่นวีซ่านักเรียนในออสเตรเลียได้เลย ถ้าหากไม่ติดคอนดิชั่น No Further Stay บนหน้าวีซ่าท่องเที่ยว หากใครถูกติดคอนดิชั่น No Further Stay บนหน้าวีซ่า หมายความว่า ไม่สามารถเปลี่ยนวีซ่าใดใด หรือยื่นขอวีซ่าใหม่ได้ในออสเตรเลียนะคะ จะต้องเดินทางกลับไทยเท่านั้น และยื่นวีซ่าจากไทยมาใหม่ แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา น้อยเคสมากๆค่ะที่วีซ่าท่องเที่ยวจะถูกติดคอนดิชั่นนี้ พี่แทบไม่ค่อยเห็นเลย 😊 🔺เมื่อมาถึงออสเตรเลียแล้ว และสำรวจแล้วว่าอยากจะเรียนต่อที่ออสเตรเลียจริงๆ จะต้องเปลี่ยนวีซ่าเป็นนักเรียนเมื่อไร? คำตอบคือ ไม่ได้มีระยะเวลากำหนดที่ตายตัวค่ะ แต่วีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาแล้วอยู่ได้แค่ครั้งละ 3 เดือน นับจากวันเดินทางมาถึง ดังนั้นหากจะเปลี่ยนวีซ่า ก็จะต้องยื่นวีซ่าก่อนที่จะอยู่ครบ 3 เดือนนั่นเองค่ะ ซึ่งควรต้องเผื่อเวลาการเตรียมเอกสาร การสมัครเรียน และการยื่นวีซ่าให้เอเจ้นท์ด้วย อย่าทำอะไรกระชั้นชิด เพราะจะยื่นวีซ่าไม่ทันเอา 🔺หลังจากยื่นวีซ่าใหม่ไปแล้ว

Read More »

วีซ่านักเรียนจะหมด จะต่อวีซ่าตอนไหน

สำหรับน้องๆที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลียด้วยวีซ่านักเรียน บางคนลงเรียนมาแค่ระยะสั้นและวีซ่าใก้ลจะหมดกันแล้ว หลายๆคนทักมาสอบถามพี่เยอะมากๆ ว่าควรต่อวีซ่าตอนไหน และบางคนวีซ่าจะหมดในอีกไม่กี่วันแต่เพิ่งตัดสินใจได้ว่าอยากเรียนต่อ จะทำเรื่องทันมั้ย?? ข้อแรกก่อนเลยนะคะ ควรต่อวีซ่าตอนไหน? 🔺 สำหรับน้องๆทุกคนที่ถือวีซ่านักเรียน สามารถอยู่ในออสเตรเลียได้อย่างถูกต้องจนถึงวันสุดท้ายที่หน้าวีซ่าหมด หากน้องๆมีความประสงค์ต้องการจะเรียนต่อ และต่อวีซ่า ตามที่สถานทูตกำหนดคือ น้องๆสามารถยื่นวีซ่าใหม่ได้ช้าสุดในวันสุดท้ายที่หน้าวีซ่าหมดเลยค่ะ แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมและแนะนำเลยคือให้ยื่นวีซ่าก่อนวีซ่าปัจจุบันจะหมดประมาณ 2-3 สัปดาห์ ไม่จำเป็นต้องยื่นก่อนวีซ่าหมดล่วงหน้าเป็นหลายๆเดือน และจะมีคำถามเพิ่มเติมจากด้านบนต่อก็คือ แล้วถ้ายื่นวีซ่าใหม่ช้า วีซ่าจะออกทัน วีเก่าหมดอายุหรือไม่คะ >> อันนี้คือไม่ต้องกังวลเลยนะคะ เพราะเวลาเรายื่นวีซ่าใหม่ไปแล้ว เราจะได้ Auto Grant Bridging A Visa ออกมาถือทดแทนวีซ่าตัวเก่าทันที โดยเราก็จะถือ Bridging A ไปเรื่อยๆ เพื่อรอวีซ่าตัวใหม่ออกค่ะ ซึ่ง Bridging A จะ ineffect (เริ่มทำงาน) ก็ต่อเมื่อวีซ่าเก่าหมดอายุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และ Bridging A นี้สามารถทำงานได้ปกติเหมือนวีซ่านักเรียนตัวเก่าค่ะ ดังนั้นไม่ต้องเผื่อเวลายื่นวีซ่านาน เพื่อให้ได้วีซ่าใหม่ออกมาก่อนที่วีซ่าเก่าจะหมดน้า คำถามต่อไป วีซ่าใกล้จะหมดในอีกไม่กี่วัน แต่เพิ่งตัดสินใจได้ว่าอยากเรียนต่อ จะทำเรื่องทันมั้ย

Read More »

ทำไมน้องๆที่จบวุฒิม.6 ถึงขอวีซ่าผ่านยาก

ทำไมวีซ่านักเรียนจบวุฒิม.6 หรือเทียบเท่า ถึงผ่านยาก และหาโรงเรียนรับเข้าเรียนค่อนข้างยาก กรณีน้องๆที่จบม.6 มาแล้วจะมาลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษเพียวๆนะคะ เพราะเป็นคอร์สที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากการจะลงเรียนคอร์สอื่นๆ ต้องแสดงให้สถานทูตเห็นถึงความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่ดีพอด้วย และทำไมน้องๆที่จบวุฒิม.6 ถึงขอวีซ่าผ่านยาก และทำไมหลายๆรร. ไม่ค่อยอยากรับเข้าเรียน (ก่อนรับเข้าเรียนต้องส่ง GTE ให้รร.อ่าน + บางรร. ขอสเตทเม้นย้อนหลัง 6 เดือน) 1. การจะทำวีซ่ามาเรียนต่อเราจะต้องชี้แจงเหตุผลให้ดีพอว่าทำไมเราถึงต้องมาเรียนต่อคอร์สภาษาอังกฤษ ซึ่งวัฒนธรรมไทยโดยส่วนมากแล้ว จบม. 6 แล้ว ก็จะต้องเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยหรือสายอาชีพ ซึ่งสถานทูตจะสามารถมองได้ว่าการมาเรียนต่อภาษาอังกฤษที่ออสเตรเลีย ไม่ได้เป็นคอร์สเรียนที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้ตัวนักเรียนได้ เพราะการทำงานในองค์กรที่ดีในไทยส่วนมากแล้วจะรีเควสวุฒิป.ตรีขึ้นไป 2. น้องๆหลายคนชี้แจงว่า อยากมาเรียนปรับภาษาอังกฤษก่อนเพื่อที่จะเข้าเรียนต่อป.ตรีที่ออสเตรเลีย หรือจะต่อป.ตรีมหาวิทยาลัยอินเตอร์ที่ไทย….. ได้ค่ะ ซึ่งแพลนนี้ถือเป็นแพลนที่คววรใช้เขียน GTE สำหรับน้องๆม.6 อยู่แล้ว แต่แพลนนี้ถือเป็นการกล่าวลอยๆว่ามาเรียนภาษาจบแล้วจะเข้าต่อมหาวิทยาลัย ซึ่งมันมีน้ำหนักค่อนข้างน้อย เพราะเราแทบไม่มีหลักฐานโชว์สถานทูตเลย นอกจากการเขียนบรรยายผ่านทางตัวหนังสือ 3. การพิสูจน์ให้สถานทูตเห็นว่าคอร์สภาษาอังกฤษที่เราเลือกมีความคุ้มค่าต่ออนาคตของผู้สมัคร เป็นอะไรที่แสดงให้สถานทูตเชื่อได้ยากมากๆ เพราะค่าเรียนภาษาที่ไทยถูกกว่ามาเรียนถึงออสเตรเลีย แต่ตรงจุดนี้เราสามารถใช้หลักฐานการเงินและแบคกราวของสปอนเซอร์มาช่วยซัพพอร์ทได้ หากสปอนเซอร์สามารถโชว์ความมั่นคงทางด้านทรัพย์สินและการเงินได้แน่นหนาเพียงพอ และตัวผู้สมัครเองสามารถโชว์ความพยามเรียนคอร์สภาษาที่ไทยมาแล้วแต่ยังไม่สามารถพัฒนาได้ รวมไปถึงการสอบไอเอล เพื่อนำผลคะแนนมาโชว์ให้เค้าเห็นถึงความตั้งใจอยากจะมาเรียนต่อจริงๆ 4. จากการคุยกับเจ้าหน้าที่หลายๆรร.

Read More »

เลเวลของประเทศและสถาบันการศึกษา

#immigrationriskrating ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเชื่อว่าน้องๆหลายๆคนพอจะรู้เรื่องนี้กันมาอยู่แล้ว แต่สำหรับน้องๆมือใหม่หลายๆคนที่กำลังหาข้อมูลในการไปเรียนต่อและทำวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย น่าจะยังไม่เข้าใจในเรื่องนี้ดี วันนี้พี่จะมาอธิบายให้ฟังแบบละเอียดเลยค่ะ คือทางสถานทูตออสเตรเลียเปลี่ยนการพิจารณาวีซ่าแบบทั่วไป มาใช้ระบบวีซ่าที่เรียกว่า SSVF (Streamlined Student Visa Framework) ตั้งแต่ปี 2016 โดยหัวข้อสำคัญข้อหนึ่งของระบบนี้คือ “Immigration risk rating” หรือ ระดับความเสี่ยงทางด้าน immigration นั่นเองค่ะ ระดับความเสี่ยงด้าน immigration นี้มีแบ่งย่อยออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนของประเทศ (Country) และของสถาบันที่เราเลือกเรียน (Institution) โดยเค้าก็จะนำความเสี่ยงมา Plot เป็นตาราง โดยความเสี่ยงทั้งสองแบบจะแยกเป็น: Level 1 ความเสี่ยงน้อยสุด Level 2 ความระดับเสี่ยงกลาง Level 3 ความเสี่ยงระดับสูง ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยนับเป็นประเทศ Level 2 คือเสี่ยงระดับกลาง โดยการเลือกสถาบันจะมีผลต่อความเสี่ยรวมที่พิจารณาจากทั้งความเสี่ยงของประเทศและสถาบันรวมกัน พูดง่ายๆก็คือ สำหรับนักเรียนจากประเทศเลเวล 2

Read More »

เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการเรียนภาษา 6 เดือน และ 1 ปี

#ค่าใช้จ่ายสำหรับมาเรียนต่อคอร์สภาษาอังกฤษที่ประเทศออสเตรเลีย มาฝากกันอีกครั้งนะคะ ลองดูเรทราคาค่าเรียนในตารางนะคะ แต่ละโรงเรียนจะมีราคาค่าเรียนที่แตกต่างกันไปค่ะ ราคาค่าเรียนภาษาของแต่ละสถาบันจะแตกต่างกันไปค่ะ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ $160-$260, ค่าสมัครเรียน $200-250, ค่าอุปกรณ์การเรียน $200-320, ค่าวีซ่า $640, ค่าประกันสุขภาพประมาณ $50 ต่อเดือน, ค่าแปลเอกสารและทำจดหมายแนะนำตัว $300-400 ส่วนอีกรูปนึงจะเป็นการทำราคาเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายก้อนแรกสำหรับลงเรียนแบบ 6 เดือน และ 1 ปีมาให้ดูนะคะ การลงเรียนภาษา 6 เดือนจะต้องชำระค่าเรียนเต็มจำนวน ลงเรียนภาษา 1 ปี สามารถแบ่งชำระค่าเรียนได้ โดยงวดแรกก่อนทำวีซ่า ต้องชำระ 6 เดือนขั้นต่ำ ส่วนที่เหลือสามารถชำระเมื่อเรียน 6 เดือนแรกไปแล้ว (#แปลว่ามีเวลาทำงานหาเงินมาจ่ายค่าเรียน6เดือนหลังได้สบายๆเลยค่ะ)

Read More »

ถาม- ตอบ เรื่องหลักฐานการเงิน

รวบรวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับหลักฐานทางการเงิน  ซึ่งจะเป็นคำถามที่หลายๆคนถามเข้ามาในส่วนของเรื่องหลักฐานการเงินสำหรับยื่นวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลียนะคะ Q: ต้องใช้สเตทเม้นย้อนหลังหรือไม่ A: ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยเราเป็นประเทศเลเวล 2 หากเราสมัครเรียนกับสถาบันเลเวล 1 หรือ 2 สถานทูตกำหนดว่าไม่ต้องใช้หลักฐานการเงินในการยื่นวีซ่าเลย #แต่ๆทุกคนอย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะเวลาที่เรายื่นวีซ่าไปแล้ว ระหว่าที่สถานทูตพิจารณาวีซ่า เค้าสามารถเรียกขอเอกสารเพิ่มเติมได้ หากเค้าเรียกให้เราโชว์หลักฐานการเงินขึ้นมา เราก็ต้องมีแสดงให้เค้าดู เพราะฉะนั้นก่อนยื่นวีซ่าเลย ไม่ว่าสมัครเรียนกับที่ไหน พี่แนะนำว่าอย่างน้อยควรยื่นแบงค์การันตีเข้าไปด้วยดีที่สุด ไม่ต้องใช้เสตทเม้นย้อนหลัง Q: ควรมียอดเงินเท่าไรในบัญชี A: #ยอดเงินแนะนำในแบงค์การันตี 5 แสนบาทขึ้นไป สำหรับการเรียน 6 เดือน หรือ 7 แสนบาทขึ้นไปสำหรับการเรียน 1 ปีขึ้นไปค่ะ Q: สามารถใช้บัญชีส่วนตัวในการโชว์ได้มั้ย A: สำหรับน้องๆที่อายุยังน้อยและยังไม่ได้ทำงานที่มีรายได้เยอะและมั่นคง พี่แนะนำให้ใช้บัญชีพ่อแม่ หรือญาติแท้ๆจะดูเหมาะสมกว่า เนื่องจากเวลาที่โชว์บัญชีพร้อมยอดเงินนั้น เราควรเขียนชี้แจงที่มาของเงินให้สถานทูตทราบด้วย เช่นเราทำงานอะไร ทำไมถึงมีเงินเก็บเยอะขนาดนี้ เป็นต้น แต่ถ้าสำหรับคนที่อยู่ในอายุวัยทำงาน 27-28 ปีขึ้นไป ทำงานมาหลายปี เงินเดือนสูงๆ จะใช้บันชีตัวเองในการโชว์ก็ถือว่าเหมาะสมค่ะ

Read More »

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องหลักฐานการเงิน

             วีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลีย ไม่ต้องใช้หลักฐานการเงิน จริงหรอ?? #คำตอบคือใช่ค่ะ ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยเราเป็นประเทศเลเวล 2 หากเราสมัครเรียนกับสถาบันเลเวล 1 หรือ 2 สถานทูตกำหนดว่าไม่ต้องใช้หลักฐานการเงินในการยื่นวีซ่าเลย #แต่ๆทุกคนอย่าเพิ่งดีใจไปนะคะ เพราะเวลาที่เรายื่นวีซ่าไปแล้ว ระหว่าที่สถานทูตพิจารณาวีซ่า เค้าสามารถเรียกขอเอกสารเพิ่มเติมได้ หากเค้าเรียกให้เราโชว์หลักฐานการเงินขึ้นมา เราก็ต้องมีแสดงให้เค้าดู โดยส่วนมากจะให้เวลาเราเตรียมเอกสาร 7 วัน ถ้าหากเราไม่สามารถส่งเอกสารให้เค้าได้ในระยะเวลาที่กำหนด วีซ่าก็จะถูกปฏิเสธทันที เพราะฉะนั้นเวลาน้องๆมาปรึกษาที่เอเจ้นท์พี่ พี่จะแนะนำเสมอๆว่า ควรเตรียมหลักฐานการเงินเอาไว้ดีที่สุด และถ้าใครมีพร้อมอยู่แล้วให้ยื่นเข้าไปด้วยเลยตอนสมัครวีซ่า เพราะเอกสารเราแน่นแค่ไหน โอกาสได้วีซ่าก็สูงค่ะ       ในส่วนของหลักฐานการเงิน หากเราสมัครเรียนกับสถาบันเลเวล 1 พี่แนะนำว่าอย่างน้อยควรยื่นแบงค์การันตีเข้าไปด้วยดีที่สุด ใช้บัญชีพ่อแม่หรือญาติได้ #ไม่จำเป็นต้องแสดงสเตทเม้นย้อนหลัง หรือรายการเดินบันชีที่ผ่านมา และนอกจากการยื่นแบงค์การันตีแล้ว เราก็ควรมีการอธิบายที่มาของเงินด้วย ว่าคนที่โชว์บัญชีให้เรามีรายได้จากทางไหน หรือถ้าโชว์บัญชีตัวเอง แนะนำว่าเป็นควรทำงานมาระยะนึง และเงินเดือนค่อนข้างสูง ที่นี้มาดูกันบ้างว่า #แบงค์การันตีคืออะไร #แตกต่างยังไงกับสเตทเม้น

Read More »

เรียนด้านเหล่านี้จบแล้วจะขอ PR ได้?

อยากไปเรียน Aged care, Childcare, Chef, ช่างทำผม, ช่างยนต์ บลาๆๆ เนื่องจากได้ยินมาว่าเรียนด้านเหล่านี้จบแล้วจะขอ PR ได้…… ??? วันนี้ขอมาตอบให้อ่านกันที่โพสนี้เลยนะคะว่า สายงานต่างๆด้านบนถือเป็นสายงานที่อยู่ในลิสอาชีพที่ออสเตรเลียต้องการ และมีสิทธิ์ขอ PR ได้จริงๆค่ะ แต่ๆๆๆ ไม่ใช่แค่มาเรียนจบในสายเหล่านี้ ก็จะยื่นสมัคร PR ได้เลยนะคะ ซึ่งน้องๆหลายคนเข้าใจแบบนั้น อย่างที่เคยบอกไปแล้วในโพสก่อนๆว่า หนทางสู่การเป็น PR หรือ พลเมืองของออสเตรเลียทำได้หลายทางมากๆ แต่ถ้าให้พูดถึงการขอ PR จากสายอาชีพและการทำงานของเรา กว่าที่จะสามารถขอ PR ได้สำเร็จก็มีเงื่อนไขเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่ว่าเรียนจบแล้วขอกันได้ง่ายๆเลยนะคะ ซึ่งการยื่นขอ PR จากสายงานด้วย Skilled Nominated Visa หรือ Skilled Independent visa – การยื่นขอแบบนี้ อาชีพที่เราจะขอจะต้องเป็นอาชีพที่อยู่ใน Skill occupation list ที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งมีเงื่อนไขในการสมัครค่อนข้างเยอะ โดยก่อนที่เราจะมีสิทธิ์ยื่นสมัคร PR

Read More »

Protection Visa (วีซ่าลี้ภัย)

Protection Visa หรือวีซ่าลี้ภัยของออสเตรเลีย  หลายๆคนลุกขึ้นสมัครวีซ่านี้กันโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจริงๆแล้ววีซ่านี้คืออะไร แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าคนไทยขอไม่ได้ ไม่ได้คือไม่ได้ ไม่ควรทำ และขอร้องนะคะว่าอย่าทำนะคะ!! เพราะมันกระทบ Rating ของประเทศและทำให้วีซ่าคนไทยผ่านยากขึ้นเรื่อยๆค่ะ เอาแบบย่อๆเลยนะคะ วีซ่านี้คือวีซ่าที่ไว้คุ้มครองคนที่ไม่สามารถกลับประเทศบ้านเกิดตัวเองได้เพราะเหตุผลร้ายแรงเช่น ในบางประเทศไม่ยอมรับคนที่รักชอบเพศเดียวกัน คนที่นับถือศาสนาหรือลัทธิย่อย หรือชนกลุ่มน้อย หรือในบางประเทศก็มีกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง จนเป็นเหตุให้มีความกลัวว่าจะถูกทำร้ายหรือจะถูกฆ่าตาย โดยที่กฏหมาย ผู้รักษากฏหมายและรัฐบาลของประเทศนั้นๆไม่สามารถปกป้องคุ้มครองเค้าได้ หรือคุ้มครองไปตามพิธีแต่ไม่ให้ความเป็นธรรม ขอบอกตรงนี้เลยนะคะว่าคนไทยอย่างเราๆเนี่ย แทบจะไม่มีเหตุที่เข้าข่ายว่าจะได้ Protection visa เลย (ใช้คำว่าแทบจะ เพราะบางเคสก็มีความเป็นไปได้ และก็เคยมีคนไทยได้ Protection visa มาแล้ว… แต่น้อยมากๆ) เคสที่ดูเหมือนจะเข้าข่าย ก็ยังไม่ทราบเลยว่าจะได้วีซ่ามารึเปล่าขึ้นอยู่กับน้ำหนักพยานหลักฐานและความน่าเชื่อถือด้วยค่ะ ใครเจอเอเจ้นท์หรือนายหน้าบอกให้ยื่นวีซ่าตัวนี้และในที่สุดจะได้พีอาร์ ก็ทราบซะนะคะว่าตัวเองถูกหลอก (คนไทยที่เข้าข่ายจะได้วีซ่านี้ เราคิดว่ามีไม่ถึง 0.1%) บางคนถูกหลอกเสียเงินไปหลายพันหรือเป็นหมื่นดอล สุดท้ายต้องเก็บกระเป๋ากลับประเทศไทยแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับใครที่ได้วีซ่ามาออสเตรเลียแล้ว ไม่ว่าจะวีซ่าท่องเที่ยวหรือวีซ่านักเรียน หรือวีซ่าอื่นๆในออสเตรเลีย “ขอร้องว่าอย่าตัดอนาคตตัวเองด้วยการยื่น Protection Visa เลยนะคะ หลายๆคนยื่นวีซ่านี้ไป เพียงเพราะคิดว่าวีซ่าราคาถูกดี ใช้เวลาพิจารณานานกว่าจะรู้ผล ถือซะว่าเป็นการซื้อเวลาอยู่ที่นี่ แต่เราบอกได้เลยว่าผลลัพธ์ที่ได้มันไม่คุ้มกันเลย เพราะผลลัพธ์ที่ได้มีแต่เสียกับเสีย

Read More »

ประวัติว่างงานหรือทำงานมานานหลายปี จะขอวีซ่าผ่านมั้ย??

เนื่องจากช่วงนี้คนแชทมาปรึกษาเยอะมากเพราะอยากทำวีซ่ามาเรียนต่อประเทศออสเตรเลีย… เคสที่มักเจอเกิน 70% คือ ว่างงาน กับ อายุเยอะทำงานมานานมาก ซึ่งพี่มองว่าทั้งสองเคสแบบนี้ มีความยากไม่แพ้กัน! ✳️ เพราะอะไร??? เพราะปัจจัยสำคัญในการขอวีซ่านักเรียน คือ ประวัติการศึกษา การทำงานที่ผ่านมา คอร์สที่เลือกมาเรียน จุดประสงค์ในการมาเรียน และเรียนจบแล้วกลับไทยไปจะทำอะไร ดังนั้นไม่แปลกเลยที่คนที่ประวัติดี หน้าที่การงานดี มีความมั่นคงที่ไทย จะขอวีซ่าผ่านง่าย ✳️ เคสที่มักจะมีจุดเสี่ยงทำให้ขอวีซ่าผ่านยาก จะมีสองเคสหลักๆคือ 1. ว่างงานมานาน (ในที่นี่ขอพูดในกรณี ว่างงานเกิน 1 ปี+) 2. ไม่เคยว่างงานเลย ทำงานมานานมากๆ (ทั้งเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ และแบบทำงานที่เดียวมา 6 ปี+) ✳️ ทำไมพี่ถึงบอกว่า 2 เคสนี้มีความยาก 📍เรื่องว่างงานนานๆ อันนี้น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่า อิมเค้าก็จะมองว่าเราไม่มีความมั่นคงที่ไทย การขอวีซ่ามาเรียนนี้ จะขอเป็นแค่ใบเบิกทางเข้ามาในออสเตรเลียเผื่อจุดประสงค์อื่นรึเปล่า ดังนั้น เคสว่างงาน น้องๆจะต้องปิดช่องว่างตรงนี้ด้วยการอธิบายให้อิมเค้ารับรู้ให้ได้ว่าที่ผ่านมาเราทำอะไรมาบ้าง การอธิบายทำยังไงได้บ้าง 1. สื่อสารผ่านทาง GTE 2.

Read More »
GTE คืออะไร

GTE คืออะไร

จดหมายแนะนำตัว หรือ ที่เอเจ้นท์เรียกกันติดปากว่า “GTE” กันบ้างนะคะ เพราะจากที่น้องๆหลายคนติดต่อมาทำเรื่องกับทางพี่ แทบทุกคนเลยจะยังไม่รู้จักจดหมายตัวนี้ ซึ่งจะบอกเลยว่าจดหมายนี้เนี่ยแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการยื่นขอวีซ่านักเรียนประเทศออสเตรเลียเลยค่ะ  GTE ย่อมาจากคำว่า Genuine Temporary Entrant ซึ่งทางสถานทูตเค้าต้องการให้เราเขียนชี้แจงเป็นจดหมายเพื่อแสดงให้เค้าเห็นว่า เราจะเดินทางมาทำอะไรในออสเตรเลีย และจะเดินทางมาอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากวีซ่านักเรียนเป็นวีซ่าชั่วคราว ทางสถานทูตจึงจำเป็นต้องมั่นใจว่าหากเค้าออกวีซ่านักเรียนให้แล้ว ผู้ถือวีซ่านักเรียนจะทำตามกฏของวีซ่า และหลังจากเรียนจบก็มีแผนในอนาคตชัดเจนว่าจะทำอะไรต่อไป ดังนั้นสถานทูตจึงกำหนดขึ้นมาว่า ผู้สมัครวีซ่านักเรียนทุกคนจะต้องแนบจดหมาย GTE ในตอนยื่นวีซ่าด้วย เพราะเค้าจะใช้เรื่องราวในตัวจดหมายนี้ประเมินสถานการณ์ส่วนบุคคลของผู้สมัคร และใช้เป็น 1 ในตัวตัดสินว่าจะออกวีซ่านักเรียนให้หรือไม่  จดหมาย GTE ต้องประกอบไปด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง 1. เรื่องราวประวัติความเป็นมาของตัวผู้สมัคร ควรสะท้อนเหตุผลของเราในการยื่นขอวีซ่า แผนการ และความตั้งใจจริง พร้อมคำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับการศึกษา การทำงาน รวมไปถึงบุคลิกภาพของเราด้วย 2. จุดประสงค์ในการเดินทางมาเรียนออสเตรเลีย – มาเรียนคอร์สอะไร ที่ไหน ระยะเวลาเท่าไร ทำไมถึงต้องเป็นประเทศออสเตรเลีย ทำไมถึงไม่เรียนที่ประเทศไทย หรือประเทศอื่นๆ 3. แพลนในอนาคตหลังเรียนจบ จะทำอะไรต่อ เพราะอะไร 4. ที่พักอาศัยในออสเตรเลีย

Read More »

Sponsor สำคัญยังไง

       จากต้นเดือนที่ผ่านมา หลายๆคนคงทราบข่าวดีไปแล้ว ว่า Risk Level ของประเทศไทยยังคงอยู่เลเวล 2 เหมือนเดิม    ซึ่งนับว่ายังเป็นข่าวดีมากๆ แต่ทุกคนก็อย่าเพิ่งชะล่าใจกันไปนะคะ ว่าการยื่นวีซ่าจะง่ายเหมือนเดิม เพราะถึงแม้เราจะอยู่ในเลเวล 2 ก็จริง แต่ส่วนตัวมองว่าสถานทูตเค้าพิจารณาเราเหมือนประเทศเลเวล 3 อยู่หลายจุดมากๆค่ะ เพราะ 3 เดือนที่ผ่านมาวีซ่าผ่านยากขึ้นมากๆจากเมื่อปีที่แล้ว วันนี้เลยอยากเอาอีกหนึ่งเรื่องที่เป็นเรื่องสำคัญในการยื่นวีซ่ามาเล่ารายละเอียดให้ฟังกัน นั่นก็คือ “Sponsor”          Sponsor (สปอนเซอร์) คืออะไร ?? สปอนเซอร์ในมุมมองสถานทูตคือคนที่จะคอยซัพพอร์ทส่งเสียให้เรามาเรียน ออกค่าใช้ จ่ายทั้งหมดในการมาอยู่ออสเตรเลียให้กับเรา ดังนั้นสปอนเซอร์จึงไม่ใช่ว่าจะใช้ใครก็ได้นะคะ         คนที่จะมาเป็นสปอนเซอร์ให้เราได้ และดูมีแรงจูงใจมากพอที่จะเป็นสปอนเซอร์ให้เราได้จริงๆ คือควรเป็นคนในสายเลือดเดียวกันกับเรา และต้องใก้ลชิดกับเราเช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ลุง ป้า น้า อา ปู่

Read More »