คำแนะนำเตรียมตัวยังไงให้วีซ่าผ่านง่าย

5 เรื่องควรรู้ เตรียมตัวยังไง ให้ขอวีซ่าผ่านง่าย

=================================

1. การเตรียมสร้างประวัติหรือโปรไฟล์ของเรา

การสร้างประวัติให้สวย และต่อเนื่อง ใครที่เพิ่งเรียนจบ (ม.6/ปวช./ปวส./ป.ตรี) และทำเรื่องไปเรียนต่อเลย อันนี้ก็ง่ายเลยค่ะ แต่สาหรับใครที่เรียนจบมาเกินกว่า 6 เดือนขึ้นไป แนะนำว่าควรหางานประจำทำ ควรเป็นงานที่มั่นคง นายจ้างออกใบรับรองการทำงานให้ได้ และเป็นงานที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาอังกฤษยิ่งจะดี ถ้าหากใครหางานประจำทำไม่ได้ แนะนำว่าอย่าอยู่เฉยๆให้ประวัติเราดูว่างนะคะ น้องๆควรหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษหรือคอร์สอะไรก็ได้ ที่เสริมสร้างทักษะบางอย่างให้กับเรา เพราะถ้าหากมีแก๊ปว่างนานๆ การที่อยู่ๆจะขอมาเรียนออสเตรเลีย ทางสถานทูตจะมองว่าเราจะขอวีซ่านักเรียนมาเพื่อจุดประสงค์อื่นมากกว่า

 

2. การเลือกคอร์สเรียนให้สอดคล้องกับประวัติ อายุ และวุฒิการศึกษา

การเลือกคอร์สเรียนเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากๆ เราควรเลือกคอร์สเรียนให้สอดคล้องกับประวัติการเรียน การทำงานของเรา เพราะเราจะต้องชี้แจงจุดประสงค์ในการมาเรียนให้สถานทูตทราบ หากเราเลือกคอร์สเรียนที่ดูไม่มีความเกี่ยวโยงใดใดกับประวัติเราเลย ก็เป็นไปได้ยากที่วีซ่าจะผ่านค่ะ

 

3. การทำจดหมายแนะนำตัว หรือจดหมาย GTE

อย่างที่เคยเขียนบอกไปโพสก่อนๆแล้ว ว่าเอกสารตัวนี้เป็นเอกสารที่สำคัญมากๆในการยื่นวีซ่า เพราะสถานทูตเค้าจะทำความรู้จักตัวเราผ่านทางจดหมายนี้ ดังนั้นเราจะต้องเขียนอธิบายชี้แจงรายละเอียดให้ได้ว่าเราเป็นใคร เรียนจบอะไรมา ปัจจุบันทำอะไรอยู่ เราต้องการมาเรียนอะไร ทำไมคอร์สที่เลือกเรียนจำเป็นต้องมาเรียนไกลถึงออสเตรเลีย และเรียนจบแล้วจะกลับไปทำอะไรต่อ หากเราเขียนจดหมายนี้ออกมาได้ไม่ดี หรือไม่สอดคล้องกับประวัติเรา ก็อาจจะทำให้วีซ่าไม่ผ่านไปเลยก็ได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ น้องๆที่ทำเรื่องกับทาง Step Abroad ทางเรามีทีมงานที่เชียวชาญจัดทำจดหมายตัวนี้ให้น้องๆแต่ละคนค่ะ (อ่านเพิ่มเติมเรื่องจดหมาย GTE ได้ที่ https://www.facebook.com/StepAbroadVisa/photos/848729222282031

 

4. หลักฐานทางการเงิน

ถึงแม้ปัจจุบัน ประเทศไทยเราเป็นประเทศเลเวล 2 หากเราสมัครเรียนกับสถาบันเลเวล 1 หรือ 2 สถานทูตกำหนดว่าไม่ต้องใช้หลักฐานการเงินในการยื่นวีซ่าเลยก็ได้ แต่พี่จะแนะนำเสมอๆว่า ควรเตรียมหลักฐานการเงินเอาไว้ดีที่สุด และถ้าใครมีพร้อมอยู่แล้วให้ยื่นเข้าไปด้วยเลยตอนสมัครวีซ่า เพราะเอกสารเราแน่นแค่ไหน โอกาสได้วีซ่าก็สูงขึ้น โดยถ้าเราสมัครเรียนกับสถาบันเลเวล 1 อย่างน้องเราควรยื่นใบสรุปยอดเงินคงเหลือในบัญชี (แบงค์การันตี) เข้าไปด้วย ใช้บัญชีพ่อแม่หรือญาติได้ #ไม่จำเป็นต้องแสดงสเตทเม้นย้อนหลัง หรือรายการเดินบันชีที่ผ่านมา และนอกจากการยื่นแบงค์การันตีแล้ว เราก็ควรมีการอธิบายที่มาของเงินด้วย ว่าคนที่โชว์บัญชีให้เรามีรายได้จากทางไหน หรือถ้าโชว์บัญชีตัวเอง แนะนำว่าเป็นควรทำงานมาระยะนึง และเงินเดือนค่อนข้างสูงค่ะ โดย #ยอดเงินแนะนำในแบงค์การันตี 5 แสนบาทขึ้นไป สำหรับการเรียน 6 เดือน หรือ 7 แสนบาทขึ้นไปสำหรับการเรียน 1 ปีขึ้นไปค่ะ

 

5. การแสดงความสัมพันธ์กับคนที่อยู่ในไทยหรือการโชว์ทรัพย์สิน (Social Tie)

ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อนึงที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดที่เจ้าหน้าที่สามารถหยิบมาใช้พิจารณาวีซ่านักเรียน โดยเค้าจะดูว่าตัวเราเองมี Social Tie กับประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน หากเรายื่นวีซ่าไปเดี่ยวๆเลย โดยไม่แจ้งว่าเรามีพ่อแม่พี่น้องที่รอเราอยู่ที่ไทย ก็อาจจะทำให้สถานทูตคิดว่าเราไม่มีความผูกพันธ์ใดใดกับประเทศไทยเลย ถ้าเค้าออกวีซ่าให้ไปแล้ว เราอาจจะไม่กลับไทยอีกก็ได้ ดังนั้นพี่มักจะแนะนำให้น้องๆทุกคนยื่นเอกสารพ่อแม่ด้วย หรือใช้พ่อแม่/ญาติสนิท เป็นคนโชว์หลักฐานการเงินให้เรา เพื่อแสดงให้เค้าเห็นว่าเรามีคนที่ไทยรอเราอยู่ และจะช่วยเหลือเราได้ทุกเมื่อ และถ้าหากใครที่มีโฉนดที่หรือเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สินใดใด (การเป็นเจ้าของรถยนต์ ไม่แนะนำให้โชว์นะคะ เพราะรถเป็นทรัพย์สินที่ไม่สามารถขายได้มูลค่าเพิ่มได้) ก็สามารถยื่นแนบไปด้วยได้ค่ะ เพื่อเป็นการแสดงว่าเรามาออสแล้ว เรียนจบก็ต้องกลับไทยอย่างแน่นอน